Uncategorized

ดาวอินคา หรือ ถั่วดาวอินคา คืออะไร ? ( Sacha inchil, Sacha peanut, Inca peanut, Supua หรือ Mountain peanut )   ดาวอินคา มีต้นกำเนิดจากอเมริการใต้ แต่ในปัจจุบันก็มีการเพาะปลูกถั่วดาวอินคาในแถบทวีปเอเชีย เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย จริงๆแล้วดาวอินคา หรือ ถั่วดาวอินคา ไม่ใช่พืชตระกูลถั่ว ดาวอินคาเป็นพืชในตระกูล เช่นเดียวกับยางพารา ( Euphobiaceae ) สบู่ดำ และ มันสำปะหลัง จัดได้ว่าเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุได้มากถึง 10 – 50 ปี และส่วนของลำต้นนั้นจะสูงได้ประมาณ 5 เมตร แต่ลักษณะของดาวอินคาเป็นรูปดาว และมีความคล้ายถั่ว เราเลยนิยมเรียก “ดาวอินคา” กันว่า ” ถั่วดาวอินคา “   เนื่องจากคุณประโยชน์ของดาวอินคา มีมากมายหลายอย่าง จึงนิยิมนำมาแปรรูป […]

“ดาวอินคา” หรือ “ถั่วดาวอินคา” สมุนไพรที่กำลังถูกพูดถึงเยอะมากด้วยคุณประโยชน์สุดล้นเหลือ  โดยเฉพาะการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคอันตราย  จึงมีการนำมาผลิตเป็นสินค้าหลากชนิด เช่น น้ำมันดาวอินคา  อย่างไรก็ตามเพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าสมุนไพรชนิดนี้มีคุณค่าต่อร่างกาย  และมีแหล่งกำเนิดชัดเจนจึงอยากพาย้อนกลับไปรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม แหล่งกำเนิดของดาวอินคา หรือ ถั่วดาวอินคา สำหรับถิ่นกำเนิดจริงของ “ดาวอินคา” หรือ “ถั่วดาวอินคา” อยู่ในทวีปอเมริกาใต้แถบประเทศเปรู โบลิเวีย เวเนซูเอล่า เอกวาดอร์ ซูรินาม  รวมถึงทางตอนเหนือของประเทศบราซิล สามารถพบเจอได้ทั่วไปบริเวณพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึง 2,000 เมตร  ซึ่งเป็นพืชที่ชาวอินคาในยุคโบราณช่วงปี ค.ศ. 1438-1533 ใช้ประโยชน์มาอย่างยาวนาน และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้  ปัจจุบันนอกจากทางอเมริกาใต้แล้วได้มีการนำพืชชนิดนี้มาปลูกในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเช่นกัน ส่วนชื่อที่เรียกก็มาจากชาวอินคาที่ใช้ตั้งแต่อดีตนั่นเอง จากพืชสมุนไพรสู่การสกัดเป็น “น้ำมันดาวอินคา” ชั้นยอด ต้องอธิบายก่อนว่าในเมล็ดของ ดาวอินคา มีโปรตีนสูง 27% รวมถึงมีปริมาณน้ำมันราว 35-60%  เป็นส่วนประกอบซึ่งในน้ำมันดาวอินคายังอุดมไปด้วยไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 (กลุ่มกรดลิโนเลนิก)  กรดไขมันโอเมก้า 6 ไขมันโอเมก้า 9 สารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มฟิโนลิกและฟลาโวนอยด์ วิตามิน A, E เป็นต้น 

Omega 3 , 6, และ 9 เป็นกรดไขมันที่สำคัญต่อร่างกายของเรา ซึ่งมีประโยชน์ต่อการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และอื่นๆ ข้อดีของ omega 3 Omega 3 มีข้อดีอย่างมากในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย รวมถึงลดความเสี่ยงของโรคหลายๆ ชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน โรคซึมเศร้า และอาการอักเสบต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของไขมันในร่างกาย ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการของสมองในเด็ก และยังช่วยลดการเกิดอาการอักเสบและเจ็บปวดของข้อต่อได้อีกด้วย ข้อดีของ omega 6 Omega 6 มีคุณสมบัติในการช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ และระบบประสาท โอเมก้า 6 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มนุษย์ต้องการได้จากอาหาร เป็นส่วนหนึ่งของกรดไขมันโพลีอินซาตูเรท (PUFA) ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อและช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวพรรณ นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ดีอีกด้วย ข้อดีของ omega 9 Omega 9 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีความสำคัญสำหรับสุขภาพของร่างกาย แต่ไม่ได้รับการกำหนดค่าอัตราการบริโภคที่แนะนำเหมือนกับ Omega 3 และ